แฟชั่นอาหารและเทคโนโลยีอาหาร: เทรนด์ใหม่ที่คนไทยต้องรู้!

webmaster

**Prompt:** A brightly lit, visually appealing photo of a meticulously plated Thai dish. The dish should showcase modern food presentation techniques with vibrant colors and artistic arrangement. Capture a close-up shot that highlights the detail of the dish, making it look appetizing and Instagram-worthy.

เทคโนโลยีอาหารและกระแสอาหารแฟชั่นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่แยกจากกัน แต่จริงๆ แล้วมีความเชื่อมโยงที่น่าสนใจอย่างยิ่ง! ลองนึกภาพสิว่าเรากำลังพูดถึงอาหารที่ไม่ได้เป็นแค่อาหาร แต่เป็นประสบการณ์ เป็นสไตล์ และเป็นตัวบ่งชี้เทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงวงการอาหารอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การพิมพ์อาหาร 3 มิติไปจนถึงการใช้ AI ในการคิดค้นเมนูใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรากินและมองอาหารไปอย่างสิ้นเชิง ฉันเองก็เคยลองชิมอาหารที่พิมพ์จาก 3D Printer มาแล้ว รสชาติอาจจะไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่ไอเดียมันเจ๋งมาก!

ในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญ การแชร์รูปภาพอาหารสวยๆ กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และแน่นอนว่าเทคโนโลยีก็มีส่วนช่วยให้เราถ่ายรูปอาหารได้สวยงามยิ่งขึ้นด้วย!

แอปพลิเคชั่นแต่งรูปอาหาร หรือฟิลเตอร์ต่างๆ ทำให้จานอาหารธรรมดาๆ ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อความนิยมของอาหารแต่ละชนิดทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเรามาเจาะลึกถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้กันให้มากขึ้นดีกว่า!

เทคโนโลยีอาหารเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การกินของเราไปอย่างไร

1. อาหารสั่งง่ายแค่ปลายนิ้ว

แฟช - 이미지 1
ในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของเรา การสั่งอาหารออนไลน์ก็กลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ว่าจะอยากกินอะไร แค่เปิดแอปพลิเคชั่น เลือกเมนู จ่ายเงิน แล้วก็นั่งรอสบายๆ อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปร้านอาหารเอง แถมยังมีโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ มากมายที่ช่วยให้เราประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยนะ อย่างฉันเองก็ชอบใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์มาก เพราะมันสะดวกสบายสุดๆ โดยเฉพาะวันที่ขี้เกียจออกจากบ้าน หรือวันที่ฝนตกหนักๆ แค่มีแอปพลิเคชั่นเดียวก็เอาอยู่!

2. ข้อมูลโภชนาการครบถ้วน

สมัยก่อนเวลาเราไปกินอาหารนอกบ้าน เราแทบจะไม่รู้เลยว่าอาหารที่เรากินเข้าไปมีแคลอรี่เท่าไหร่ มีไขมันเท่าไหร่ มีน้ำตาลเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ร้านอาหารหลายๆ ร้านเริ่มให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลโภชนาการมากขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพ หรือร้านอาหารที่มีแอปพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้เราควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่กินเข้าไปในแต่ละวันได้อีกด้วยนะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือคนที่ใส่ใจสุขภาพ

เมื่อ Food Presentation สำคัญกว่ารสชาติ?

1. อาหารสวย = อาหารอร่อย?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคที่โซเชียลมีเดียครองเมือง การถ่ายรูปอาหารสวยๆ อัพลง Instagram กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และหลายๆ ครั้งที่เราตัดสินใจเลือกร้านอาหารจากรูปภาพที่สวยงามบนโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้ร้านอาหารหลายๆ ร้านหันมาให้ความสำคัญกับการจัดจาน (Food Presentation) มากขึ้น เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ และแน่นอนว่าการจัดจานที่สวยงามก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินได้จริงๆ นะ เพราะมันทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น และยังช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อีกด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่เราเจออาหารที่หน้าตาดี แต่รสชาติธรรมดา ซึ่งก็ทำให้รู้สึกผิดหวังเหมือนกันนะ

2. เทคนิคการถ่ายรูปอาหารให้ปัง

ถ้าอยากถ่ายรูปอาหารให้สวยปังจนเพื่อนๆ ต้องกดไลค์รัวๆ ก็ต้องมีเทคนิคกันหน่อย! อย่างแรกเลยคือแสง! แสงธรรมชาติคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ควรเลือกถ่ายรูปในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ แต่หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเพราะอาจจะทำให้สีของอาหารดูเพี้ยนไปได้ นอกจากนี้ก็ควรให้ความสำคัญกับการจัดองค์ประกอบภาพ เลือกมุมที่สวยที่สุด และใช้แอปพลิเคชั่นแต่งรูปช่วยปรับสีให้สดใสขึ้นอีกนิดหน่อย แค่นี้รูปอาหารของเราก็จะดูน่ากินขึ้นมาทันที!

ส่วนตัวฉันชอบใช้แอป VSCO ในการแต่งรูป เพราะมันมีฟิลเตอร์ให้เลือกเยอะ แถมยังใช้งานง่ายอีกด้วย

วัตถุดิบแปลกใหม่จากเทคโนโลยีอาหาร

1. เนื้อจากพืช (Plant-Based Meat)

กระแส Plant-Based Meat หรือเนื้อจากพืชกำลังมาแรงมากๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากกินเนื้อ แต่ไม่อยากเบียดเบียนสัตว์ หรือคนที่ต้องการลดปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอลในอาหาร เนื้อจากพืชทำมาจากโปรตีนจากพืช เช่น ถั่วเหลือง เห็ด หรือข้าว ซึ่งมีรสชาติและเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อสัตว์จริงๆ มาก จนบางครั้งเราแทบแยกไม่ออกเลยว่ามันคือเนื้อจากพืช!

และที่สำคัญคือมันมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าเนื้อสัตว์จริงๆ ด้วยนะ เพราะมันมีไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำกว่า แถมยังมีไฟเบอร์สูงกว่าอีกด้วย

2. โปรตีนจากแมลง (Insect Protein)

หลายคนอาจจะรู้สึกอี๋! เมื่อพูดถึงโปรตีนจากแมลง แต่จริงๆ แล้วแมลงเป็นแหล่งโปรตีนที่ยั่งยืนและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากๆ เลยนะ! แมลงหลายชนิดมีโปรตีนสูงกว่าเนื้อวัว แถมยังมีไขมันต่ำกว่าอีกด้วย และการเลี้ยงแมลงก็เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเลี้ยงปศุสัตว์ เพราะมันใช้ทรัพยากรน้อยกว่า และปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า แต่แน่นอนว่าการที่จะทำให้คนไทยหันมากินแมลงเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ เพราะมันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมและความเคยชิน แต่ถ้าเราสามารถเปลี่ยนทัศนคติของคนได้ โปรตีนจากแมลงก็อาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับปัญหาการขาดแคลนอาหารในอนาคตก็ได้นะ

เทรนด์อาหารรักษ์โลกที่มาแรง

1. อาหาร Zero Waste

เทรนด์อาหาร Zero Waste กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาขยะอาหารที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งอาหาร Zero Waste คือการทำอาหารโดยใช้วัตถุดิบทุกส่วนอย่างคุ้มค่า ไม่ทิ้งขว้าง และลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การนำเปลือกผักมาทำน้ำซุป การนำก้านผักมาทำผัด หรือการนำเศษอาหารที่เหลือมาทำปุ๋ยหมัก ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดปริมาณขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วยนะ

2. อาหาร Local และ Seasonal

การกินอาหาร Local และ Seasonal หรืออาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ปลูกในท้องถิ่นและตามฤดูกาล เป็นอีกหนึ่งเทรนด์อาหารรักษ์โลกที่กำลังมาแรง เพราะมันช่วยลดการขนส่งอาหารจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้การกินอาหารตามฤดูกาลยังช่วยให้เราได้กินอาหารที่สดใหม่และมีรสชาติดีที่สุดอีกด้วยนะ เพราะผลไม้และผักที่ปลูกตามฤดูกาลจะมีสารอาหารและรสชาติที่ดีกว่าผลไม้และผักที่ปลูกนอกฤดูกาล

AI กับการสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ

1. AI ช่วยคิดค้นสูตรอาหาร

AI ไม่ได้เก่งแค่เรื่องการคำนวณตัวเลขเท่านั้นนะ แต่ยังสามารถช่วยเราคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ ได้อีกด้วย! โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากสูตรอาหารที่มีอยู่มากมายบนโลกออนไลน์ แล้วนำมาผสมผสานกับวัตถุดิบที่เรามีอยู่ในตู้เย็น AI ก็สามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารที่ไม่ซ้ำใครได้ แถมยังสามารถปรับสูตรอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของเราได้อีกด้วยนะ เช่น ถ้าเราต้องการอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ หรืออาหารที่ไม่มีกลูเตน AI ก็สามารถปรับสูตรให้ได้ตามต้องการ ซึ่งเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ

2. AI ช่วยแนะนำร้านอาหาร

นอกจากจะช่วยคิดค้นสูตรอาหารได้แล้ว AI ยังสามารถช่วยเราหาร้านอาหารอร่อยๆ ได้อีกด้วย! โดยการวิเคราะห์ข้อมูลจากรีวิวร้านอาหารบนโลกออนไลน์ และประเมินจากความชอบของเรา AI ก็สามารถแนะนำร้านอาหารที่ตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด แถมยังสามารถบอกได้ว่าร้านอาหารไหนกำลังมีโปรโมชั่น หรือร้านอาหารไหนที่กำลังเป็นที่นิยม ซึ่งช่วยให้เราตัดสินใจเลือกร้านอาหารได้ง่ายขึ้นเยอะเลย!

ตารางสรุปเทคโนโลยีอาหารและผลกระทบต่อผู้บริโภค

เทคโนโลยีอาหาร ผลกระทบต่อผู้บริโภค ตัวอย่าง
การสั่งอาหารออนไลน์ สะดวกสบาย, ประหยัดเวลา, มีตัวเลือกหลากหลาย GrabFood, LINE MAN
ข้อมูลโภชนาการ ช่วยให้เลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ, ควบคุมปริมาณแคลอรี่ แอปพลิเคชั่นคำนวณแคลอรี่
Plant-Based Meat ทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพและสัตว์, ลดไขมันและคอเลสเตอรอล Beyond Meat, Impossible Foods
อาหาร Zero Waste ลดขยะ, ประหยัดเงิน, เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การนำเปลือกผักมาทำน้ำซุป
AI ช่วยคิดค้นสูตรอาหาร สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ, ปรับสูตรให้เหมาะสมกับความต้องการ แอปพลิเคชั่นสูตรอาหาร AI

โอกาสทางธุรกิจจากเทรนด์อาหารแฟชั่น

1. สร้าง Content อาหารบน Social Media

ยุคนี้ใครๆ ก็เป็น Content Creator ได้ แค่มีโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวก็สามารถสร้าง Content เกี่ยวกับอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวร้านอาหาร สอนทำอาหาร หรือแชร์เคล็ดลับการกิน ซึ่งถ้า Content ของเราน่าสนใจและมีคุณภาพ ก็จะสามารถดึงดูดผู้ติดตามได้จำนวนมาก และสามารถสร้างรายได้จากการโฆษณา หรือการขายสินค้าได้อีกด้วยนะ อย่างฉันเองก็เคยเห็นเพื่อนที่ชอบทำอาหารสร้างช่อง YouTube สอนทำอาหาร จนมีผู้ติดตามเป็นแสน แถมยังได้ออกรายการทีวีอีกด้วย!

2. เปิดร้านอาหารแนวใหม่

ถ้ามีไอเดียเจ๋งๆ ก็ลองเปิดร้านอาหารแนวใหม่ที่ตอบโจทย์เทรนด์อาหารแฟชั่นดูสิ! ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร Plant-Based ร้านอาหาร Zero Waste หรือร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ซึ่งถ้าเราสามารถสร้างความแตกต่างและนำเสนออาหารที่อร่อยและมีคุณภาพได้ ก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้แน่นอน แต่ก่อนที่จะเปิดร้านก็ต้องศึกษาตลาดและวางแผนธุรกิจให้ดีก่อนนะ เพราะการเปิดร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้ความอดทนและความมุ่งมั่นอย่างมาก

ความท้าทายของเทคโนโลยีอาหารในอนาคต

1. ความปลอดภัยของอาหาร

เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในวงการอาหารมากขึ้น ความปลอดภัยของอาหารก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน เพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจจะมาพร้อมกับความเสี่ยงใหม่ๆ ที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อน เช่น การปนเปื้อนของสารเคมีในอาหารที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ หรือความเสี่ยงจากอาหารที่พิมพ์ด้วย 3D Printer ซึ่งเราต้องมีมาตรการควบคุมและตรวจสอบที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่เรากินนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพจริงๆ

2. ความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยี

เทคโนโลยีอาหารอาจจะช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น แต่ก็อาจจะสร้างความเหลื่อมล้ำในสังคมมากขึ้นเช่นกัน เพราะคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายกว่า ก็จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีมากกว่า ในขณะที่คนที่เข้าถึงเทคโนโลยีได้ยากกว่า ก็อาจจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งเราต้องหาวิธีที่จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีอาหารได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ การสนับสนุน หรือการสร้างโอกาส เพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีอย่างเต็มที่หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่องของเทคโนโลยีอาหารและกระแสอาหารแฟชั่นนะ!

อย่าลืมติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอาหารอยู่เสมอ เพราะโลกของอาหารเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา! เทคโนโลยีอาหารได้เปลี่ยนวิธีการกินของเราไปอย่างมาก ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น และมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยของอาหารและความเท่าเทียมในการเข้าถึงเทคโนโลยีด้วยนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึงผลกระทบของเทคโนโลยีอาหารที่มีต่อไลฟ์สไตล์การกินของเราได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

บทสรุป

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่สนใจในเรื่องของเทคโนโลยีอาหารและกระแสอาหารแฟชั่นนะคะ! อย่าลืมติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการอาหารอยู่เสมอ เพราะโลกของอาหารเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา!

ข้อมูลน่ารู้เพิ่มเติม

1. แอปพลิเคชั่นสั่งอาหารยอดนิยมในไทย: GrabFood, LINE MAN, foodpanda

2. ร้านอาหาร Plant-Based ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ: Vistro Bangkok, Broccoli Revolution, Veganerie

3. ตลาดสดชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่มีวัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล: ตลาด อ.ต.ก., ตลาดคลองเตย, ตลาดสามย่าน

4. แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการ: เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข, แอปพลิเคชั่น Calforlife, FatSecret

5. เทศกาลอาหารที่น่าสนใจในประเทศไทย: Bangkok Restaurant Week, Wongnai Bangkok Food Festival, Samui Food Festival

ประเด็นสำคัญ

• เทคโนโลยีอาหารทำให้การสั่งอาหารง่ายขึ้น สะดวกสบายขึ้น และมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น

• ข้อมูลโภชนาการช่วยให้เราเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพและควบคุมปริมาณแคลอรี่ได้

• Plant-Based Meat เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนรักสุขภาพและสัตว์

• อาหาร Zero Waste ช่วยลดขยะ ประหยัดเงิน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

• AI สามารถช่วยคิดค้นสูตรอาหารใหม่ๆ และแนะนำร้านอาหารอร่อยๆ ได้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 📖

ถาม: เทคโนโลยีอาหารมีผลต่อเทรนด์อาหารแฟชั่นอย่างไรบ้าง?

ตอบ: เทคโนโลยีอาหารมีผลต่อเทรนด์อาหารแฟชั่นอย่างมากเลยค่ะ! ตั้งแต่การคิดค้นส่วนผสมใหม่ๆ ที่ทำให้รสชาติอาหารน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ไปจนถึงการนำเสนออาหารที่สวยงามและน่าดึงดูดใจบนโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น เทคนิคการทำอาหารแบบโมเลกุลาร์ (Molecular Gastronomy) ที่เคยฮิตมากๆ หรือการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเพื่อสร้างสรรค์อาหารรูปร่างแปลกตา สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยสร้างกระแสความนิยมและดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ถาม: อาหารแฟชั่นมีผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่ และเราควรเลือกทานอย่างไร?

ตอบ: อาหารแฟชั่นบางอย่างอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ค่ะ โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลอรี่สูง น้ำตาลเยอะ หรือมีไขมันไม่ดีต่อสุขภาพ ฉะนั้นเวลาเลือกทานอาหารแฟชั่น เราควรใส่ใจในเรื่องของโภชนาการด้วยนะคะ ลองมองหาเมนูที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ มีผักผลไม้เยอะๆ หรือเป็นเมนูที่ใช้วิธีการปรุงที่ไม่เน้นทอดหรือผัดน้ำมันมากเกินไป นอกจากนี้ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ และอย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ!

ถาม: เทรนด์อาหารแฟชั่นที่กำลังมาแรงในประเทศไทยตอนนี้มีอะไรบ้าง?

ตอบ: ตอนนี้ในประเทศไทยมีเทรนด์อาหารแฟชั่นที่น่าสนใจหลายอย่างเลยค่ะ! อย่างเช่นอาหาร Plant-Based ที่เน้นการใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนหันมาใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารที่นำเสนออาหารไทยแบบดั้งเดิมในรูปแบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และแน่นอนว่าเมนูเครื่องดื่มและขนมหวานที่มีสีสันสวยงาม ถ่ายรูปขึ้นกล้อง ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องค่ะ!

📚 อ้างอิง